การตรวจสอบหากำลังกําลังรับแรงดึงสูงสุดของเหล็กเสริมด้วย HARDNESS TEST

การตรวจสอบหากำลังกําลังรับแรงดึงสูงสุดของเหล็กเสริมด้วย Hardness Test เป็นประเมินค่าความแข็งของผิวเหล็กเสริม (Hardness Test) ซึ่งการทดสอบประเมินค่าความ แข็ง (Hardness) ของผิวเหล็ก มีลักษณะในการทํางานโดยการปล่อยหัวทดสอบรูปทรงกลม ให้กระแทกกับผิวเหล็กทีต้องการทดสอบ ด้วยแรงดันจากสปริงภายในเครืองมือทดสอบ ความเร็วในการกระแทกและการสะท้อนกลับ (Impact และ Rebound Hammer) จะถูก ตรวจวัดด้วยความละเอียด จากค่าความต่างศักย์ทีเกิดขึนขณะทีหัวทดสอบเคลือนทีผ่าน แม่เหล็กแล้วนํามาแปรผลเป็นค่าดัชนีความแข็งของผิวเหล็ก ตามสเกลมาตรฐานของ Leeb หรือ Brinell จากค่าความแข็งทีวัดได้นํามาประมาณ ค่ากําลังรับแรงดึงสูงสุด (Ultimate Tensile Strength, fu)  เครืองมือทดสอบประกอบด้วย ชุดวัดและประมวลค่าความเร็วของชุด อุปกรณ์หัวทดสอบ การทดสอบกระทําโดยทําความสะอาดผิวเหล็กให้สะอาด ก่อนจึงจะทําการทดสอบได้ และทําการทดสอบเพื่อเป็นค่าประมาณกําลัง (Strength) ของโครงสร้างเหล็ก ที่จุดทดสอบนั้น  ทดสอบด้วยเครืองวัดค่า Hardness ทีผิวของเหล็ก เป็นไปตามมาตรฐานASTM A956 “Standard Test Methods for LeebHardness Testing of  Steel Products”

 

รูปเครื่องมือ LEEB Hardness Test  สำหรับทดสอบกำลังรับแรงดึงสูงสุดของเหล็ก

 

การทดสอบความแข็งแบบบริเนลล์ (Brinell Hardness Test) วิธีทดสอบความแข็งแบบบริเนลล์ล์ประกอบด้วยการกดวัสดุทดสอบด้วยลูกบอลเหล็กกล้าชุบแข็งหรือลูกบอลคาร์ไบด์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 มม. ภายใต้ภาระ 3000 กิโลกรัมแรง สำหรับวัสดุที่อ่อนสามารถลดภาระที่ 1500 กิโลกรัมแรง หรือ 500 กิโลกรัมแรง เพื่อหลีกรอยกดที่มากเกิน ปกติจะคงภาระไว้ 10 –15 วินาที ในกรณีเหล็กหล่อและเหล็กกล้า และอย่างน้อย 30 วินาที ในกรณีโลหะอื่นๆ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของรอยกดที่เหลืออยู่บนวัสดุทดสอบ จะถูกวัดโดยกล้องขยายกำลังต่ำ ค่าความแข็งคำนวณจากการหารภาระที่ใช้ด้วยพื้นที่ผิวของรอยกด

 

คลิปวีดีโอตัวอย่างวิธีการทดสอบ

  https://www.youtube.com/watch?v=XOxhKdj_OJs

ขอใบเสนอราคา